วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2556

ทำความดี ย่อมมีมารสกัดเป็นธรรมดา

ทำดีแค่ไหน ทุ่มเท แค่ไหนสายบุญทุกคนตั้งใจทำเพื่อให้ทุกสิ่งทุกอย่างสำเร็จ แต่แปลกกลับไ้ร้เงาชาวบ้าน ทั้งๆที่คนทำ ตั้งใจทำเสียสละทั้งแรงกายแรงใจไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แทนที่จะได้รับคำชม แต่กลับมีแต่คนอิจฉาจ้องแต่จะเอาเปรียบ เอาความดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่น บีบคั้นกดดันสารพัด ดีแต่พูด กีดกัน( แต่ไม่ช่วยเหลือ)แต่อยากให้เสร็จเร็วๆ..ในเมื่อไม่มีใครช่วยดีแต่พูด จะเสร็จเร็วได้อย่างไร  พอถึงตอนนี้อยากได้หน้า...เมื่อไม่ได้หน้าอย่างที่คิด ก็จึงเป็นอย่างที่เห็น...ต่างคน ต่างทำ คนที่ทำ ก็ไม่ละความพยายาม..ยังคงเพียรทำต่อไป และก็ทำได้จริงๆ   บอกตรงๆ เกิดมาไม่เคยเห็น   แทนที่วัด ชาวบ้านจะดีใจ ที่มีศาลาสวยๆไว้ประดับวัด   กลับไม่เป็นอย่างนั้น ชาวบ้านไม่มาร่วม ิเพราะถูกล็อบบี้ทั้งคนในและคนนอก  คงเจริญแหละ ทั้งหมด ทั้ง  มวลก็คือ  ความอิจฉาริษยา เมื่อเห็นผู้อื่นทำดี  ตัวเองทำไม่ได้.............พูดในสิ่งที่ไม่จริง   บิดเบือนความจริงจนผู้คนเข้าใจผิด.......กันหมด      แต่เอาเถอะไม่ถือสาหรอก  ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย  ต่อไปจะไปสร้างให้ที่อืน  หวังว่า  คงจะไม่เจอแบบนี้อีก.....นะ พี่น้องชาวไทย.........

วันจันทร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2556

จงทำดีแต่อย่าเด่น จะเป็นภัย..ไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน..หลวงวิจิตรวาทการ

.ความหมั่นไส้เป็นความรู้สึกเชิงลบที่ดูไม่มีเหตุผล เวลาเห็นคนอื่นดีกว่า เด่นกว่า มั่งมีกว่า ก็อดจะหมั่นไส้ไม่ได้ หงุดหงิดใจและอาจจะแสดงออกทางกิริยา ความหมั่นไส้มีแต่ให้ผลเชิงลบ คนหมั่นไส้เองก็รู้สึกหงุดหงิด ขวางหูขวางตา คนที่ถูกหมั่นไส้ก็เสียความมั่นใจ รู้สึกกังวลใจเวลามีคนหมั่นไส้ มองระดับสังคมกว้างขึ้นมาก็มีผลแง่ลบเช่นกัน ถ้าคนที่ทำดีแล้วมีคนหมั่นไส้ คนทำดีก็จะพาลท้อใจได้ ทำดีอยู่แล้วแต่กลับมีแต่คนเกลียด ทั้งๆที่ความดีเป็นสิ่งที่ควรเผยแพร่แบ่งปัน แต่ความรู้สึกหมั่นไส้ดังกล่าวยับยั้งกระบวนการเช่นนั้น ความหมั่นไส้มีแต่ทำให้สังคมด้อยลง เนื่องจากเป็นเหตุให้คนทำความดี'ไม่กล้า'ที่จะแสดงให้เห็นว่าเขาทำดี..อันที่จริงคนเขาอยากให้เราดี..แต่ถ้าเด่นขึ้นทุกทีเขาหมั่นไส้..จงทำดีแต่อย่าเด่น จะเป็นภัย..ไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน..หลวงวิจิตรวาทการ